ISO มาตรฐาน ISO คืออะไร ระบบ ISO มีกี่ประเภท
ISO ย่อมาจาก (International Organization for Standardization) คือ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นองค์กรที่ออกมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และอุตสาหกรรม ส่วนมาตรฐานที่องค์กรนี้ออกมา ก็ใช้ชื่อนำหน้าว่า ISO เช่น ISO 9000 และ ISO 14000 ซึ่งก็เป็นมาตรฐานที่ว่าด้วยระบบบริหารคุณภาพ และระบบบริหารสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันระบบISO ได้รับความนิยมอย่างสูงจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอาหาร หรือแม้กระทั่ง การก่อสร้างและงานบริการด้านต่างๆ
ในปัจจุบันได้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันกันอย่างสูงเพื่อให้ธุรกิจของตนได้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการบริการ อุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เป็นต้น บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ คำว่า ISO ว่ามันคืออะไร และมีบทบาทสำคัญมากน้อยแค่ไหนในเชิงธุรกิจ
ISO ถูกผลักดันโดยประเทศเยอรมนี ในช่วงปี 2521 หลังสงครามโลกจบลง โดยให้ทั่วโลกมีมาตรฐานคุณภาพสินค้าเดียวกันส่วนองค์กรมาตรฐานโลกก็จัดตั้งระบบ ISO/TC176 ขึ้นต่อมาอีก1ปีอังกฤษพัฒนาระบบคุณภาพที่เรียกว่า BS5750 ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ จากนั้นในปี 2530 ISO จึงจัดวางระบบการบริหารเพื่อการประกันคุณภาพที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบเอกสารหรือที่เรียกว่า อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000 เป็นมาตรฐานที่กำหนดใช้ในทุกประเทศทั่วโลก
ISO จะมีสมาชิกจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก และสมาชิกก็แบ่งเป็นระดับๆ แตกต่างกันไปอีก ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ และมาตรฐานต่างๆ ที่ออกมาก็เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศ (International Standard) นอกจากนี้มาตรฐาน ISO ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรชนิดใดขนาดใหญ่ หรือ เล็ก ผลิตสินค้าอะไร หรือ ให้บริการอะไร
สมาชิกของ มาตรฐาน ISO
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. Member body เป็นตัวแทนทางด้านการมาตรฐานของประเทศ แต่ละประเทศจะมีหน่วยงานซึ่งทำ
หน้าที่สมาชิก ISO เพียงหน่วยงานเดียว
2. Correspondent member เป็นหน่วยงานของประเทศซึ่งยังไม่มีการจัดตั้งสถาบันมาตรฐานเป็นการเฉพาะ
3. Subscriber member เป็นหน่วยงานในประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจต่ำสมาชิกประเภทนี้จะจ่ายค่าบำรุงสมาชิกในอัตราที่ได้รับการลดหย่อน
องค์ประกอบของ มาตรฐาน ISO
1. สมัชชาทั่วไป (General Assembly)
2. คณะมนตรี (Council)
3. คณะกรรมการบริหารด้านวิชาการ (Technical Management Board)
4. คณะกรรมการวิชาการ (Technical committee)
5. สำนักเลขานุการ (Central Secretariat)
หมายเหตุ : โดยมีประเทศสมาชิกจากทั่วโลก
ประโยชน์ของ มาตรฐาน ISO
1. องค์กร/บริษัท
– การจัดองค์กร การบริหารงาน การผลิตตลอดจนการให้บริการมีระบบ และมีประสิทธิภาพ
– ผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นที่พึงพอใจของลูกค้าหรือผู้รับบริการและได้รับการยอมรับ
– ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กร
– ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
2. พนักงานภายในองค์กร/บริษัท
– มีการทำงานเป็นระบบ ทำให้ลดความคลุ่มเครือและขัดแย้ง
– เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
– พนักงานมีจิตสำนึกในเรื่องของคุณภาพมากขึ้น
– มีวินัยในการทำงาน
– พัฒนาการทำงานโดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมหรือเป็นกลุ่มมีการประสานงานที่ดี และสามารถ
พัฒนาตนเองตลอดจน เกิดทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน และรู้จักการวิเคราะห์ปัญหา การแก้ไขป้องกัน และปรับปรุง
3. ผู้ซื้อ/ผู้บริโภค
– มั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการ ว่ามีคุณภาพตามที่ต้องการ
– สะดวกประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องตรวจสอบคุณภาพซ้ำ
– ได้รับการคุ้มครองด้านคุณภาพความปลอดภัยและการใช้งาน
"ISO"มาตรฐานสากลมีสำคัญต่อการค้า ถือเป็นจุดแข็งเพื่อการแข่งขันทางการค้าในโลกปัจจุบัน "ISO"เป็นมาตรฐานสากลด้านระบบบริหาร ได้แก่ ระบบคุณภาพ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่รู้จักกันโดยทั่วไป และสำหรับบทความนี้จะขอกล่าวถึงระบบการจัดการที่ได้รับความนิยมดังต่อไปนี้
ISO 9000 คือการจัดระบบการบริหารเพื่อประกันคุณภาพ ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบเอกสาร และมีซีรีย์ต่างๆได้แก่ ISO 9001,ISO 9002,ISO 9003,ISO 9004 ฯ
ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลทั้งการออกแบบ และพัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ ปัจจุบันเป็น Version 2015 เขียนเต็มๆว่า ISO 9001 : 2015
ISO 9002 มาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเฉพาะการผลิต การติดตั้ง และการบริการ (ปกติไม่ขอการรับรอง แต่จะนำไปประยุกต์ใช้)
ISO 9003 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องการตรวจ และการทดสอบขั้นสุดท้าย (ปกติไม่ขอการรับรองแต่จะนำไปประยุกต์ใช้)
ISO 9004 เป็นแนวทางในการบริหารงานคุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นข้อแนะนำ ในการจัดการในระบบคุณภาพ ซึ่งจะมีการกำหนดย่อย ในแต่ละประเภทธุรกิจ(ปกติไม่ขอการรับรองแต่จะมีการนำไปประยุกต์ใช้)
ISO 14000 เป็นระบบมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นให้องค์กรมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันเป็น Version 2016 และเขียนเต็มๆว่า ISO 14001 : 2015
ISO 45001 มาตรฐานระบบการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ซึ่งเข้ามาแทนที่ ISO 18000) และปัจจุบันเป็น Version 2018 ซึ่งเขียนเต็มๆว่า ISO 45001 : 2018 นั่นเอง
ISO/IATF 16949 มาตรฐานการจัดการคุณภาพที่มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันใช้ Version 2016
ISO 22000 มาตรฐานระบบการจัดการ ความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นข้อกำหนดเฉพาะสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหารในห่วงโซ่อาหาร สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องการที่ต้องการการควบคุมด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เช่น ยา เครื่องสำอางค์ หรือผลิตภัณฑ์ที่สำผัสกับอาหารโดยตรง ปัจจุบัน Version 2018 เขียนเต็มๆว่า ISO 22000 : 2018
ISO 13485 เป็นระบบมาตรฐานการจัดการด้านคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์
ISO 19011 เป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับการ Internal Audit ปัจจุบันใช้ Version 2018
ฯลฯ
4. คณะกรรมการ ISO จะมีการรวมตัวกันเพื่อนำเอามาตรฐานมาทำการพิจารณา วิคราะห์ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงทำการปรับปรุงในทุกๆ 5 ปี แต่จะใช้เวลาในการพิจารณาแล้วออกเป็นดร๊าฟประมาณ 1-2 ปีโดยประมาณ จากนั้นจึงประกาศใช้เวอร์ชั่นใหม่นั่นเอง
ควอส.
15/10/2564
"ISO คืออะไร" "ISO" "มาตรฐาน ISO คืออะไร"